ที่ กองปราบปราม เมื่อวันที่ 27 พ.ย.เวลา 10.00 น.นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พร้อมด้วย นายพิทยา อินทร์คง นายกเทศมนตรี ต.เพชรพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่เกาะพะงัน 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.แสงชัย เหล่ากิจรุ่งเรือง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุน 13 ราย ที่สร้างโรงแรมและรีสอร์ทรุกชายหาดสาธารณะบนเกาะพะงันเนื้อที่เกือบ 120 ไร่ พร้อมนำภาพถ่ายดาวเทียม รวมถึงเอกสารการพิพากษาของศาลฎีกา มามอบไว้เป็นหลักฐาน
นายพิทยา กล่าวว่า เดิมทีพื้นที่บริเวณแหลมสนเป็นทะเล จากนั้นมีการทำเหมืองแร่ดีบุก ดูดแร่ขึ้นมาและแยกทรายบางส่วนมาถมพื้นที่ ทำให้เกิดเป็นชายหาดสวยงาม มีหลักฐานจากภาพถ่ายทางอากาศ ย้อนไปเมื่อปี 2518 พื้นที่บริเวณนี้ยังคงเป็นชายหาดว่างเปล่า ต่อมาในปี 2538 เริ่มมีการปลูกต้นสน กระทั่งในปี 2542 มีทั้งต้นสนและรีสอร์ทและโรงแรมปลูกเต็มพื้นที่ ทางเทศบาลเพชรพะงันก็ได้ฟ้องร้องกลุ่มนายทุนกันเรื่อยมาเพื่อนำพื้นที่ชายหาดกลับมาเป็นที่สาธารณะ กระทั่งปี 2546 ศาลฎีกาได้ตัดสินให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะประโยชน์ (ประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน)
นายพิทยา กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าของเทศบาลตำบลเพชรพะงัน ได้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่บุกรุกชายหาดตามกฎหมาย แต่กลับถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขัดขวาง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ ผอ.กองช่าง และปลัดเทศบาลที่ดำเนินการเรื่องนี้ได้ถูกผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งย้ายออกนอกพื้นที่อีกด้วย จึงกังวลว่า อาจจะเกิดกรณีคล้ายกับที่ดินฟาร์มไก่ ของคุณเอ๋ ปารีณา เลยมาร้องเรียนให้ตำรวจกองปราบปราม ดำเนินการกับผู้บุกรุก
ด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า ผู้บุกรุกบนพื้นที่หาดแหลมสน มีความผิดหลายกระทง ทั้งความผิดฐานบุกรุกพื้นที่สาธารณะ และผิดตาม พรบ.อาคาร และความผิดอื่นๆ เพื่อให้ตำรวจกองปราบปรามดำเนินการตามกฎหมาย และพรุ่งนี้จะไปติดตามความคืบหน้ากับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป